เทคนิคการพันลวด
การพันลวดเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับกระบวนการสร้างไม้บอนไซตามแบบฉบับของญี่ปุ่น แต่การสร้างไม้บอนไซตามแบบฉบับของจีนแล้วจะใช้เทคนิคการตัด, การโน้มกิ่ง, การดึงกิ่ง ฯ หากดูไม้ของจีนขณะกำลังสร้างเราจะเห็นเชือกระโยงรยางค์ไปหมด ข้อดีของเทคนิคนี้ก็คือไม้จะไม่ค่อยช้ำ เจริญเติบโตได้เร็ว ข้อเสียก็คือหากมีบางตำแหน่งที่กิ่งไม่มีจะต้องรอให้กิ่งแตกออกมาเองโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจจะแตกออกมาหรือไม่ก็ได้ แต่หากใช้เทคนิคการพันลวดแบบญี่ปุ่นแล้วเราสามารถที่จะดัดกิ่งอื่นๆที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่เราต้องการให้เข้ามาเสริมในตำแหน่งที่ขาดหายดังกล่าวได้ ไม้ที่สร้างจากทั้งสองเทคนิคจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน รูปแบบของไม้บอนไซของญี่ปุ่นจะมีความละเอียดปราณีตของไม้มากกว่า และสามารถทำไม้บอนไซขนาดเล็กแต่ยังคงรายละเอียดของกิ่งก้านเอาไว้ได้ แตกต่างจากไม้บอนไซจากจีนจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่โตรายละเอียดน้อยกว่า ปร ความงามอยู่ที่ภาพรวมของไม้เป็นหลัก ในที่นี้จะกล่าวถึงรายละเอียดเทคนิคการพันลวดตามแบบฉบับการสร้างไม้บอนไซของญี่ปุ่น
ไม้บอนไซที่สร้างได้สวยงามส่วนมากจะต้องมีการพันลวดในบางจุดขณะที่กำลังสร้างไม้ เป็นเทคนิคไว้ว่าจะเป็นผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นสร้างไม้บอนไซหรือแม้จะเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญก็ตามจำเป็นต้องใช้เสมอ เทคนิคการพันลวดทำให้ผู้สร้างไม้บอนไซสามารถควบคุมการสร้างลำต้นและกิ่งก้านของไม้บอนไซได้เป็นอย่างดีตามต้องการ
การพันลวดรอบๆกิ่งของไม้ทำให้เราสามารถดัดต้นไม้ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ โดยการยึดรั้งไว้ด้วยลวดในชั่วเวลาหนึ่งอาจเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนเดือนขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ของเรา กิ่งหรือลำต้นจะเริ่มรับรู้ถึงสภาวะที่เกิดขึ้นและจะยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เราดัดไว้ถึงแม้เราจะปลดลวดออกแล้วก็ตาม ด้วยการใช้ลวดเราสามารถทำให้ลำต้นหรือกิ่งมีความอ่อนไหวเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคนี้เราสามารถใช้ลวดดัดกิ่งอ่อนซึ่งตามธรรมชาติจะพุ่งขึ้นให้อยู่ในแนวระนาบหรือแม้แต่จะให้โค้งตกลงมาเหมือนกิ่งของไม้ใหญ่ที่ลู่ต่ำลงด้วยน้ำหนักของมันเอง เราสามารถดัดกิ่งเพิ่อเติมในช่องว่างของไม้บอนไซได้ ถ้าเราจะสร้างไม้บอนไซโดยการไม่ใช้วิธีการดัดด้วยลวดแล้ว เราจะต้องรอยอดใหม่โดยหวังว่ามันจะแตกออกมาตรงตำแหน่งที่ต้องการ แต่ด้วยการใช้ลวดเราสามารถดดัดกิ่งที่อยู่ในตำแหน่งอื่นให้เข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการได้
การเลือกลวดบอนไซ
ลวดบอนไซปรกติจะมีสองชนิด คือ ลวดอลูมิเนียมและลวดทองแดง ลวดอลูมิเนียมก็ยังแบ่งออกเป็นสองชนิด แบบสีโลหะธรรมดา และแบบอโนไดซ์ ลวดอลูมิเนียมจะอ่อนง่ายต่อการดัดและตัดจึงเหมาะสำหรับนักบอนไซมือใหม่และยังสามารถนำมาใช้ได้ใหม่หลังใช้ดัดแล้ว (แต่ไม่แนะนำเนื่องจากไม้ที่เราดัดแล้วเมื่อเราคลายลวดออกทั้งเส้นอาจจะทำความเสียหายให้กับกิ่งที่พันไว้ ส่วนใหญ่จะตัดเป็นท่อนๆทิ้งเลย) ลวดทองแดงจะแข็งกว่าทำให้การพันยากกว่ามาก และเมื่อพันเข้ารูปแล้วจะไมสามารถนำมาใช้ได้อีก กรรไกรตัดลวดปรกติกรรไกรตัดลวดธรรมดาก็ใช้งานได้ดีพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กรรไกรเฉพาะเจาะจง
ลวดอลูมิเนียมจะขายเป็นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ลวดยิ่งโตก็ยิ่งสามารถดัดไม้ได้ใหญ่ขึ้น ปรกติการเลือกขนาดของลวดจะใช้ขนาดเป็น 1/3 ของความโตของต้นหรือกิ่งที่ต้องการดัด ส่วนลวดทองแดงซึ่งแข็งกว่าจะใช้ขนาดที่เล็กกว่า ขนาดของลวดอาจปรับเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ที่ต้องการดัด
สำหรับมือใหม่แนะนำให้ใช้ลวด 3 - 4 ขนาดก็เพียงพอแล้ว ลวดที่จะใช้มีขนาดตั้งแต่ 1.2 mm , 1.7mm, 2.5mm และ 4mm เมื่อเริ่มชำนาญคุณก็จะสามารถเลือกลวดที่จะใช้กับกิ่งและชนิดของไม้ที่ต้องการดัดได้เป็นอย่างดี
หมายเหตุ ลวดเหล็กจะเป็นพิษกับไม้จำพวกสน เหล็กจะเกิดปฏิกิริยากับน้ำยางของไม้ขึ้นทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า Blackrot ซึ่งจะแพร่ลามไปอย่างลวดเร็วและอาจทำให้ไม้ตายลงได้ สำหรับไม้ตระกูล Rhododendron เช้น Azalea มีรายงานว่าทองแตงจะเป็นพิ่ษต่อไม้ตระกูลนี้
ลวดบอนไซ
ลวดที่จะใช้ต้องใหญ่พอที่จะดัดกิ่งและยึดให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้ แต่จะต้องเล็กพอที่จะทำงานได้โดยง่ายและดูเรียบร้อยเมื่อเสร้จ ขั้นตอนของการพันลวดและการดัดจะทำให้เกิดการแตกและรอยปริขึ้นที่ชั้นใต้เปลือกไม้ของกิ่ง เมื่อชั้นแคลมเบี้ยมของไม้ซ่อมแซมและรักษารอยแตกหรือปรินี้หายแล้ว กิ่งที่เราดัดลวดจะคงอยู่ในตำแหน่งนี้อย่างถาวรถึงแม้เราจะปลดลวดที่พันออกแล้วก็ตาม กิ่งยิ่งโตเร็วเท่าไรมันก็จะซ่อมแซมและรักษาตัวเองได้เร็วเท่านั้น และในที่สุดเราก็สามารถปลดเอาลวดที่พันออกได้โดยกิ่งยังอยู่ในตำแหน่งที่พันไว้แต่เดิม การพันลวดในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ไม้เจริญเติบโตได้ดีมาก เราจะใช้เวลาสั้นกว่าทำในฤดูหนาวขณะที่ไม้เจริญเติบโตได้ช้ากว่า และไม้สายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้เร็วเช่น ไกร หรือชาฮกเกี้ยน จะใช้เวลาในการพันลวดให้เข้าสู่ตำแหน่งที่ต้องการน้อยกว่าไม้ที่เจริญเติบโตช้า เช่น ไม้ตระกูลสน
เทคนิคการพันลวด
- ลวดควรทำมุม 45° กับแนวของกิ่งที่จะพัน
- การพันลวดต้องพันให้สม่ำเสมอสนิทกับลำต้นหรือกิ่ง ไม่ห่างหรือหลอมเกินไป
ภาพแสดงลวดที่พันหลอมเกินไป จะทำให้ไม่มีแรงดัดกิ่งที่มีประสิทธิภาพ
ภาพแสดงลวดที่พันระยะห่างกันเกินไป จะทำให้ไม่มีแรงดัดกิ่งที่มีประสิทธิภาพ
ภาพแสดงลวดที่พันระยะชิดกันและแน่นเกินไป ทำให้ลวดรัดขวางทางเดินของท่อน้ำเลี้ยง อาจทิ้งกิ่งได้
ภาพแสดงลวดที่พันถูกต้องไม่แน่นเกินไป ทำมุม 45° กับแนวของกิ่งที่จะพัน
- การพันลวดสำหรับกิ่งให้พันดังภาพแสดงด้านล่าง การพันกิ่งสองกิ่งให้พันลำต้นหนึ่งรอบก่อนจะพันไปยังกิ่งที่สอง
หากไม่สามารถใช้กิ่งสองกิ่งได้ให้พันรอบต้นอย่างน้อย 2 รอบก่อนเริ่มพันกิ่ง
การพันกิ่งรองและกิ่งหลักด้วยลวดเส้นเดียวกัน
- จับปลายลวดด้านหนึ่งด้วยมือซ้ายไว้ตลอดเวลา ขณะที่เราพันลวดไล่มาตามกิ่งขยับมือซ้ายไล่ตามไปเรื่อยๆ ลวดที่พันไปแล้วจะต้องไม่ขยับขณะที่เราพันส่วนที่เหลือของกิ่ง
- จับลวดที่จะพันไว้ด้วยมือขวา ป้อนลวดผ่านทางนิ้วโป้งและนิ้วชี้เมื่อพันลวดรอบกิ่งหมุนเป็นเกลียววงกลมรอบๆกิ่ง พันลวดจากส่วนล่างสุดโดยให้พุ่งเข้าหาต้ว
- เราอาจจะตัดลวดให้ยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 1/3 ของความยาวกิ่งที่จะพันลวด
- ปลายสุดของลวดหักทำมุม 90° กับแนวของกิ่งเพื่อล๊อคลวดเอาไว้กับปลายกิ่ง
- สำหรับไม้ตระกูลที่เจริญเติบโตได้เร็ว อาจพันลวดแบบหลอมๆเพื่อป้องกันไม่ให้ลวดบาดเข้าไปในเนื้อไม้เมื่อกิ่งโตขึ้น
- เมื่อต้องการพันลวดทั้งต้นให้เริ่มจากลำต้น, ไปที่กิ่งหลัก และกิ่งรองตามลำดับ
การดัดกิ่งให้เข้าตำแหน่งที่ต้องการ
- ดัดกิ่งช้าๆและต่อเนื่อง พยายามฟังเสียงและสังเกตดูว่ากิ่งเริ่มมีการแตกบ้างหรือไม่ หากกิ่งเริ่มแตกให้หยุดทันที ยิ่งกิ่งใหญ่ก็ยิ่งแข็งต้องใช้แรงในการดัดมากขึ้นไปอีก หากเป็นกิ่งที่ใหญ่และแข็งมากๆจำเป็นต้องใช้การพันกิ่งด้วยเชือกฟางก่อนพันหรือใช้เทคนิคการบากกิ่งช่วย (ซึ่งจะกล่าวถึงในบทต่อๆไป)
- หากไม่แน่ใจให้ลองดัดกิ่งด้วยนิ้วมือก่อนพันลวดเพื่อให้รู้ว่าเราสามารถดัดกิ่งได้มากขนาดไหน
- ไม้บางชนิด เช่น อซาเลีย, ฯ ไม่สามารถดัดมากๆได้ต้องใช้วิธีบากกิ่งหรือแยกกิ่งช่วย ไม้จำพวกนี้ต้องดัดลวดขณะกิ่งยังอ่อนๆอยู่
- การดัดจะใช้นิ้วมือทั้งสองข้างจับด้านนอกของกิ่งที่ต้องการดัดเอาไว้ แล้วใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างดังเพื่อดัดกิ่งจากด้านใน จะทำให้เราควบคุมการดัดได้เป็นอย่างดี
- อย่าพยายามดัดกิ่งตรงตำแหน่งที่ชิดกับลำต้น กิ่งจะฉีกเสียหายได้ ต้องดัดห่างออกมาจากจุดนั้นเล็กน้อย ไม่ต้องกังวลว่ากิ่งตรงส่วนนั้นจะดูโค้งเพราะในที่สุดต้นไม้จะปรับองศาของกิ่งตรงจุดนั้นเข้ามาเอง
- ก่อนพันลวดควรลดปริมาณน้ำในดินให้น้อยเล็กน้อย หากน้ำในดินน้อยจะทำให้ต้นหรือกิ่งไม่อิ่มน้ำและง่ายต่อการดัด
- คิดก่อนดัด หากดัดแล้วไม่ควรดัดกลับไปกลับมาอีกควรดัดเพียงครั้งเดียว เนื่องจากทุกการดัดจะทำความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อของต้นหรือกิ่งที่เราดัด กิ่งจะยิ่งบอบช้ำมากยิ่งขึ้น
การสร้างความอ่อนช้อยให้กับกิ่งและลำต้นให้เสมือนต้นไม้ใหญ่
- การดัดมุมแหลมต้องดัดที่ตรงตำแหน่งใบซึ่งกิ่งแยกจะแตกออกมา ที่ตำแหน่งนี้โดยธรรมชาติจะเป็นตำแหน่งที่กิ่งจะมีการเปลี่ยนทิศทาง การดัดกิ่งที่ตำแหน่งระหว่างตาจะทำให้ดูไม่เหมือนธรรมชาติ
- ดัดให้กิ่งย่อยของกิ่งหลักออกมาอยู่ด้านนอกของมุมที่ดัด ไม่ใช่อยู่ข้างใน
- โดยเฉพาะในกลุ่มไม้ผลัดใบ ต้องเพิ่มความอ่อนช้อยให้กับทุกส่วนของกิ่งที่ตรง
- ไม่ใช่ดัดไม้ให้อ่อนช้อยไปทางซ้ายทางขวาเท่านั้น แต่ต้องให้มีทิศทางขึ้น ลงด้วย
การพันลวดเป็นสาเหตุให้ไม้เกิดความเครียด
อย่างไรก็ตามหากเราให้เวลาและการทำนุบำรุงโดยไม่มีการรบกวนไม้อีกในช่วงนั้น ไม้บอนไซจะตอบสนองต่อการพันลวดได้อย่างดี ห้ามพันลวดในไม้ที่ไม่สมบูรณ์หรืออ่อนแออยู่ เนื่องจากการพันลวดและการดัดกิ่งทำให้เนื้อเยื่อของต้นไม้เกิดการเสียหาย ต้นไม้จะต้องซ่อมแซมเนื้อเยื่อในส่วนที่เสียหายนั้นและจะทำให้ไม้อยู่ในตำแหน่งที่เราดัดไว้ ซึ่งในการซ่อมแซมตัวเองนี้ต้นไม้ต้องมีความสมบูรณ์หากไม้อ่อนแอนอกจากจะไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้แล้วอาจจะต้องเสียกิ่งนั้นไปอีกด้วย
การพันลวดลำต้นอาจทิ่มปลายข้างหนึ่งของลวดลงไปในดิน หรืออาจจะพันรอบๆโคนต้นโดยลวดจะอยู่เหนือดินก็ได้ทั้งสองวิธี
เมื่อไรที่จะต้องพันลวดกับไม้ของเรา
สำหรับการสร้างไม้บอนไซในประเทศไทย การพันลวดสามารถทำได้ตลอดทั้งปี โดยให้พิจารณาว่าเมื่อใดสามารถพันลวดได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการพันลวดในหน้าหนาว นอกจากไม้เมืองหนาวเช่น เมเปิล เอมฯ ซึ่งจะมีสภาพที่สมบูรณ์มากในฤดูหนาวบ้านเรา
- พยายามพันลวดในช่วงที่ไม้ผลัดใบ ซึ่งจะเห็นกิ่งได้ชัดเจนทำให้เห็นโครงสร้างรวมของทั้งต้น ทำให้ตัดสินใจได้ว่ากิ่งควรดัดไปในทิศทางใด การพันลวดในช่วงนี้จะเหมาะที่สุดเพราะไม้มีเวลาซ่อมแซมรักษาส่วนที่แตกปริจากการดัดได้ทันก่อนฤดูหนาว ซึ่งในช่วงนั้นการเจริญเติบโตของต้นไม้จะชงักไปตามสภาพของอากาศ สำหรับไม้โตเร็วตรวจสอบลวดเป็นระยะๆเพื่อป้องกันการบาดของลวดลงไปในเนื้อไม้
- ไม้ตระกูลสนสามารถทำการดัดลวดได้ตลอดเวลาตั้งแต่ แม้แต่ในฤดูหนาวก็ตามเพราะไม้ตระกูลนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาว
การถอดลวดออก
เมื่อต้นไม้เริ่มเติบโตขึ้นขนาดของลำต้นและกิ่งก็จะโตตามไปด้วย ลวดที่เราพันไว้จะเริ่มรัดแน่นขึ้นไปเรื้อยๆ และจะทำให้เกิดรอยบาดลึกลงไปในเนื้อไม้เป็นเกลียวตลอดแนวที่ดัด หากรอยบาดเกิดเพียงตื้นๆก็จะหายไปเองอย่างรวดเร็ว แต่หากรอยบาดนั้นเกิดลึกมากๆอาจจะเห็นเป็นรอยตลอดไปก็ได้ซึ่งลดความสวยงามของไม้ไปน่าเสียดาย ฉนั้นเราจึงต้องหลีกเลี่ยงโดยการถอดลวดออกก่อนที่ลวดจะบาดลึกลงไปในเนื้อไม้ ปรกติการถอดลวดจะทำโดยการตัดลวดออกเป็นวงๆด้วยกรรไกรตัดลวด การพยายามคลวยลวดออกทั้งเส้นอาจทำความเสีย
หายได้เช่น อาจกระทบกับตาไม้ที่อยู่ใกล้ๆ, ทำให้ใบฉีกขาด หรืออาจทำให้กิ่งหักได้ แต่ก็มีนักบอนไซหลายท่านที่นิยมคลายลวดออกทั้งเส้นซึ่งก็สามารถนำมาใช้ได้ใหม่ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะกับกิ่งเล็กๆซึ่งบอบบางฉีกหักได้ง่าย อย่าพยายามนำลวดทองแดงที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เพราะคุณจะพบว่ามันเป็นการยากในการที่จะดัดเส้นลวดให้เรียบเหมือนเดิม
มีประโยชน์มากเลยครับ ขอบคุณครับ
ตอบลบประวิทย์ (มือใหม่บอนไซ)
กะลังหาอยู่เพื่อศึกษาหน่อย มีประโยชน์มากขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณกับความรู้ครับสำหรับมือใหม่จะลองปฏิบัติดูครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ...สุดยอดมาก
ตอบลบอ่านปี 64 มีประโยชน์มากครับ
ตอบลบขอบคุณคะ กำลังจะลองทำดูบ้างคะ
ตอบลบ